Customer Reviews

แค่เห็นชื่อหนังสือ ก็เหมือนโดนหมัดน็อค กันเลยทีเดียว หนังสือแนว How to เล่มนี้เล่าเรื่องผ่านมุมมอง จากการอ่าน การเรียนรู้ การศึกษา ทัศคติ และสิ่งที่ผ่านมาในชีวิตของผู้เขียน โดยแบ่งเรื่องราวของหนังสือเป็น 6 ส่วน ส่วนแรกคือการเกริ่นนำ เหมือนการโยนหินถามทาง ตั้งคำถามง่ายๆ แต่แหลมคม จู่โจม โดนใจ ชวนให้คิด กับคำว่า “เขตเบาใจ อันตรายที่สุด” ส่วนที่ 2 เล่าเรื่องราวชีวิตของบุคคลที่มีชื่อเสียง ประสบความสำเร็จ ร่ำรวย โดยไม่ต้องเรียนจบปริญญา ความสำเร็จที่ผ่านการเรียนรู้ ลองผิดลองถูก ชีวิตที่ไม่ได้ผ่านห้องเรียน ชีวิตที่ตกอับลำบากยากเข็ญ แต่ละคนมีจุดเปลี่ยนอย่างไรถึงประสบความสำเร็จได้โดยไม่ต้องง้อใบปริญญา ส่วนที่ 3 ชี้ให้เห็นในมุมมองของความเป็นลูกจ้าง ชีวิตความเป็นลูกจ้างจะเจอกับอะไรบ้าง จะมีชีวิตที่เป็นอย่างไร ทั้งในมุมมองการดำเนินชีวิต แนวทางการทำงาน การเจริญเติมโตทางการเงิน ภาระความรับผิดชอบ ความเจริญก้าวหน้าทางอาชีพ ซึ่งเมื่ออ่านส่วนที่ 3 จบแล้วนั้น หลายคนอาจจะเกิดการตั้งคำถามกับตัวเองหรือกับหนังสือเล่มนี้ก็ได้ว่า “ที่เขียนมามันก็จริง แต่จะให้เริ่มต้นยังไงล่ะ” คำตอบหรือทางสว่าง ก็จะเริ่มมองเห็นในส่วนที่ 4 ซึ่งจะเล่าให้คุณได้เห็นถึงจุดเริ่มต้น หรือที่มาของความคิดสร้างสรรค์ ความแปลกใหม่ ความกล้า ท้าทาย อันเป็นที่มาของสิ่งของ สินค้าหรือบริการต่างๆ ที่มีอยู่และประสบความสำเร็จจริงในโลกนี้ และการกระตุ้นให้คุณทำสิ่งที่คุณรัก ส่วนที่ 5 จะเล่าถึงแนวทางของการเป็นคนจนกับคนรวย ซึ่งอาจจะไม่ได้วัดกันที่ปริมาณมากที่สุดของใคร แต่เน้นย้ำให้เห็นถึงวิธีการที่ฉลาด และคนเราควรเลือกในวิธีการที่เหมาะสมและสมดุลกับตนเองมากที่สุด ส่วนสุดท้ายของหนังสือ จะสรุปเคล็ดลับของบุคคลที่ประสบความสำเร็จ ว่าคนเหล่านั้นได้ใช้กลเม็ดหรือยึดแนวทางใดที่ทำแล้วสำเร็จจริงมาให้คนอ่านได้เรียนรู้ หลังอ่านหนังสือเล่มนี้จบ ต้องบอกว่ามีประโยชน์และประหยัดเวลามาก หนังสือเล่มนี้ช่วยรวบรวมแนวทางสำคัญ ข้อความหรือข้อคิดดีๆของบุคคลหลายคนจากหนังสือหลายเล่มให้เล่าอ่านผ่านการเล่าเรื่อง การจัดเรียงเนื้อหาที่เข้าใจง่าย เข้าถึงได้ดี ปลุกใจ ปลุกไฟ การเป็นตัวของตัวเองของคนได้อย่างลึกซึ้ง แม้ชื่อเรื่องคล้ายกับจะบ่งบอกว่าให้คุณลาออก แต่สำหรับตัวผู้อ่านเอง เมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้จบหมดแล้ว ต้องบอกว่าผู้เขียน ไม่ได้ต้องการชี้นำให้เราออกจากความเป็นลูกจ้าง หรืองานประจำเท่านั้นนะ แต่สิ่งที่ผู้เขียนอยากจะบอกคือ คุณต้องลาออกจากความเป็นคุณคนเดิม และหาตัวตนของตัวเองให้เจอ หาทางเดินที่มีความสุขของตัวเองให้ได้ แล้วคุณจะกับความรวย(ความสุข)ที่แท้จริงค่ะ

แค่เห็นชื่อหนังสือ ก็เหมือนโดนหมัดน็อค กันเลยทีเดียว หนังสือแนว How to เล่มนี้เล่าเรื่องผ่านมุมมอง จากการอ่าน การเรียนรู้ การศึกษา ทัศคติ และสิ่งที่ผ่านมาในชีวิตของผู้เขียน โดยแบ่งเรื่องราวของหนังสือเป็น 6 ส่วน ส่วนแรกคือการเกริ่นนำ เหมือนการโยนหินถามทาง ตั้งคำถามง่ายๆ แต่แหลมคม จู่โจม โดนใจ ชวนให้คิด กับคำว่า “เขตเบาใจ อันตรายที่สุด” ส่วนที่ 2 เล่าเรื่องราวชีวิตของบุคคลที่มีชื่อเสียง ประสบความสำเร็จ ร่ำรวย โดยไม่ต้องเรียนจบปริญญา ความสำเร็จที่ผ่านการเรียนรู้ ลองผิดลองถูก ชีวิตที่ไม่ได้ผ่านห้องเรียน ชีวิตที่ตกอับลำบากยากเข็ญ แต่ละคนมีจุดเปลี่ยนอย่างไรถึงประสบความสำเร็จได้โดยไม่ต้องง้อใบปริญญา ส่วนที่ 3 ชี้ให้เห็นในมุมมองของความเป็นลูกจ้าง ชีวิตความเป็นลูกจ้างจะเจอกับอะไรบ้าง จะมีชีวิตที่เป็นอย่างไร ทั้งในมุมมองการดำเนินชีวิต แนวทางการทำงาน การเจริญเติมโตทางการเงิน ภาระความรับผิดชอบ ความเจริญก้าวหน้าทางอาชีพ ซึ่งเมื่ออ่านส่วนที่ 3 จบแล้วนั้น หลายคนอาจจะเกิดการตั้งคำถามกับตัวเองหรือกับหนังสือเล่มนี้ก็ได้ว่า “ที่เขียนมามันก็จริง แต่จะให้เริ่มต้นยังไงล่ะ” คำตอบหรือทางสว่าง ก็จะเริ่มมองเห็นในส่วนที่ 4 ซึ่งจะเล่าให้คุณได้เห็นถึงจุดเริ่มต้น หรือที่มาของความคิดสร้างสรรค์ ความแปลกใหม่ ความกล้า ท้าทาย อันเป็นที่มาของสิ่งของ สินค้าหรือบริการต่างๆ ที่มีอยู่และประสบความสำเร็จจริงในโลกนี้ และการกระตุ้นให้คุณทำสิ่งที่คุณรัก ส่วนที่ 5 จะเล่าถึงแนวทางของการเป็นคนจนกับคนรวย ซึ่งอาจจะไม่ได้วัดกันที่ปริมาณมากที่สุดของใคร แต่เน้นย้ำให้เห็นถึงวิธีการที่ฉลาด และคนเราควรเลือกในวิธีการที่เหมาะสมและสมดุลกับตนเองมากที่สุด ส่วนสุดท้ายของหนังสือ จะสรุปเคล็ดลับของบุคคลที่ประสบความสำเร็จ ว่าคนเหล่านั้นได้ใช้กลเม็ดหรือยึดแนวทางใดที่ทำแล้วสำเร็จจริงมาให้คนอ่านได้เรียนรู้ หลังอ่านหนังสือเล่มนี้จบ ต้องบอกว่ามีประโยชน์และประหยัดเวลามาก หนังสือเล่มนี้ช่วยรวบรวมแนวทางสำคัญ ข้อความหรือข้อคิดดีๆของบุคคลหลายคนจากหนังสือหลายเล่มให้เล่าอ่านผ่านการเล่าเรื่อง การจัดเรียงเนื้อหาที่เข้าใจง่าย เข้าถึงได้ดี ปลุกใจ ปลุกไฟ การเป็นตัวของตัวเองของคนได้อย่างลึกซึ้ง แม้ชื่อเรื่องคล้ายกับจะบ่งบอกว่าให้คุณลาออก แต่สำหรับตัวผู้อ่านเอง เมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้จบหมดแล้ว ต้องบอกว่าผู้เขียน ไม่ได้ต้องการชี้นำให้เราออกจากความเป็นลูกจ้าง หรืองานประจำเท่านั้นนะ แต่สิ่งที่ผู้เขียนอยากจะบอกคือ คุณต้องลาออกจากความเป็นคุณคนเดิม และหาตัวตนของตัวเองให้เจอ หาทางเดินที่มีความสุขของตัวเองให้ได้ แล้วคุณจะกับความรวย(ความสุข)ที่แท้จริงค่ะ

เรื่องราวสุดแปลกของ “ดร.พัธ” หนุ่มขรึม นักเรียนนอก กับ “หวาน” สาวแบงค์สุดมั่น แสนเปรี้ยว(ตรงข้ามกับชื่อ) จดหมายผิดห้อง ผิดตัวคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่คล้ายกับมีคำว่าพรหมลิขิตคอยกำหนดไว้แล้ว ต้องบอกเลย ว่าชื่นชมและรู้สึกอินกับเรื่องนี้เป็นการส่วนตัวอย่างนึง เนื่องจากว่า นวนิยายขนาดสั้นเรื่องนี้พระนางของเรื่องมีอาชีพและการทำงานอย่างชัดเจน นางเอกของเรื่องเป็นสาวแบงค์ ทำงานด้านสินเชื่อ ซึ่งในเนื้อเรื่องก็จะมีการบอกเล่าถึงธรรมชาติของการทำงานแบงค์อยู่บ้าง ส่วนพระเอกของเรื่องหลังจากกลับมาจากการเรียนต่อต่างประเทศก็กลับมาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย (ซึ่งในเนื้อเรื่อง นางเอกเคยเรียนที่นี่) ซึ่งการที่ผู้อ่านเองอินกะเรื่องนี้เป็นพิเศษ เนื่องจากเคยผ่านการทำงานทั้งสองอาชีพของพระเอกนางเอกมาแล้ว อิอิ จุดเด่นของเรื่องนี้ก็คือ ความสมเหตุสมผลของพระเอก นางเอกนั่นแหละ มีการดำเนินเรื่องคล้ายวิถีชีวิตของคนทำงานจริงๆ ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นกับเพื่อนร่วมงาน หรือปัญหาในการทำงานเมื่อนำเอาเรื่องส่วนตัวมาผสมปนเปลงไปด้วย ปมชีวิตของนางเอกที่เปิดเผยในตอนท้ายก็ดูมีน้ำหนักต่อสิ่งที่นางเอกของเรื่องเป็น การดำเนินเรื่อง ผ่านบทสนทนาจะออกแนวค่อนข้างเรียบ ไม่มีให้ลุ้น หรือให้จิ้นมากนัก อ่านแล้วไม่หวือหวามาก ข้อดีอีกประการคือ มีการใส่มุมมองเรื่องความรักที่ไม่แบ่งแยกเพศทางกายภาพเข้ามาในเรื่องได้อย่างกลมกลืนและทันสมัย แถมยังมีตอนพิเศษ ของคู่พิเศษในเรื่องให้ติดตาม แต่โดยความคิดส่วนตัวของผู้อ่านคิดว่า ไม่ค่อยจะกลมกลืนกับเรื่องราวหลักสักเท่าไหร่นัก สรุป เรื่องนี้อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบพระนางแบบ มีฉากโรมานซ์ กุ๊กกิ๊ก เพราะเรื่องนี้จะเป็นมุมมองความรักแบบเป็นผู้ใหญ่ วัยทำงาน ผ่านเรื่องราวที่มีเหตุมีผลมากกว่าค่ะ

เรื่องราวสุดแปลกของ “ดร.พัธ” หนุ่มขรึม นักเรียนนอก กับ “หวาน” สาวแบงค์สุดมั่น แสนเปรี้ยว(ตรงข้ามกับชื่อ) จดหมายผิดห้อง ผิดตัวคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่คล้ายกับมีคำว่าพรหมลิขิตคอยกำหนดไว้แล้ว ต้องบอกเลย ว่าชื่นชมและรู้สึกอินกับเรื่องนี้เป็นการส่วนตัวอย่างนึง เนื่องจากว่า นวนิยายขนาดสั้นเรื่องนี้พระนางของเรื่องมีอาชีพและการทำงานอย่างชัดเจน นางเอกของเรื่องเป็นสาวแบงค์ ทำงานด้านสินเชื่อ ซึ่งในเนื้อเรื่องก็จะมีการบอกเล่าถึงธรรมชาติของการทำงานแบงค์อยู่บ้าง ส่วนพระเอกของเรื่องหลังจากกลับมาจากการเรียนต่อต่างประเทศก็กลับมาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย (ซึ่งในเนื้อเรื่อง นางเอกเคยเรียนที่นี่) ซึ่งการที่ผู้อ่านเองอินกะเรื่องนี้เป็นพิเศษ เนื่องจากเคยผ่านการทำงานทั้งสองอาชีพของพระเอกนางเอกมาแล้ว อิอิ จุดเด่นของเรื่องนี้ก็คือ ความสมเหตุสมผลของพระเอก นางเอกนั่นแหละ มีการดำเนินเรื่องคล้ายวิถีชีวิตของคนทำงานจริงๆ ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นกับเพื่อนร่วมงาน หรือปัญหาในการทำงานเมื่อนำเอาเรื่องส่วนตัวมาผสมปนเปลงไปด้วย ปมชีวิตของนางเอกที่เปิดเผยในตอนท้ายก็ดูมีน้ำหนักต่อสิ่งที่นางเอกของเรื่องเป็น การดำเนินเรื่อง ผ่านบทสนทนาจะออกแนวค่อนข้างเรียบ ไม่มีให้ลุ้น หรือให้จิ้นมากนัก อ่านแล้วไม่หวือหวามาก ข้อดีอีกประการคือ มีการใส่มุมมองเรื่องความรักที่ไม่แบ่งแยกเพศทางกายภาพเข้ามาในเรื่องได้อย่างกลมกลืนและทันสมัย แถมยังมีตอนพิเศษ ของคู่พิเศษในเรื่องให้ติดตาม แต่โดยความคิดส่วนตัวของผู้อ่านคิดว่า ไม่ค่อยจะกลมกลืนกับเรื่องราวหลักสักเท่าไหร่นัก สรุป เรื่องนี้อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบพระนางแบบ มีฉากโรมานซ์ กุ๊กกิ๊ก เพราะเรื่องนี้จะเป็นมุมมองความรักแบบเป็นผู้ใหญ่ วัยทำงาน ผ่านเรื่องราวที่มีเหตุมีผลมากกว่าค่ะ

เรื่องราวสุดชุลมุนวุ่น(วาย)รัก ของสองคู่ฝาแฝดที่ต่างกันสุดขั้ว “สุทธนุช” แฝดน้องที่แสนเปรี้ยว ก๋ากั๋น สุดแสบ ส่วน “สุทธดา” แฝดพี่แสนขี้อาย ไร้ความมั่นใจ กับสองอาหลานสุดหล่อ แสนเท่ห์ “ดร.ธันว์เทพ” อาหนุ่มสุดเพอร์เฟ็ค เพียบพร้อมทั้งหน้าตา ความรู้ หน้าที่การงาน กับหลานชาย “พีรวัส” หลานชายผู้เพียบพร้อมแต่ลอยชาย ไร้แก่นสาร เรื่องราวเกิดขึ้นแบบผิดฝาผิดตัวในตอนแรก ความแตกต่างกันของคนเราที่ดึงดูดหากันเหมือนแม่เหล็กต่างขั้ว ความสัมพันธ์ที่คุ้มดีคุ้มร้ายของพระนางที่ต้องช่วยลุ้นกันในหลายๆเหตุการณ์ รวมถึงความลับสุดแสนสำคัญของอาหนุ่มสุดหล่อที่ไม่มีใครรู้ จุดเด่นของเรื่องนี้คือ พล็อตเรื่องแบบฝาแฝด พระนางสองคู่ ยอดนิยมสุดๆ เนื้อเรื่องแม้จะค่อนข้างเดาได้ไม่ยาก แต่เมื่อถูกถ่ายทอดผ่านบทสนทนาที่สนุก ชวนติดตาม ไม่เยิ่นเย้อ และมีเสน่ห์ ทำให้การอ่านมีความสนุกมาก และฟินสุดๆกับหลายเรื่องราวของพระนางทั้งสองคู่ อีกทั้งตัวละครในเรื่องมีการบอกที่มาที่ไป เรื่องราวและเหตุผลของการกระทำของตัวละครรวมถึงสิ่งที่ตัวละครแต่ละตัวได้รับผลในบทสรุปสุดท้าย ทำให้เนื้อเรื่องมีความสมจริง น่าเชื่อถือ จุดเด่นอีกข้อคือ การผูกเนื้อเรื่องและลำดับความสำคัญของเหตุการณ์ต่างๆ ในเรื่อง ทำได้ค่อนข้างดี ลื่นไหล อ่านแล้วชวนติดตามให้ลุ้นว่าในหน้าถัดๆไป จะพบกับเหตุการณ์หรือบทสนทนาแบบใด เหตุการณ์จิ้นๆในเนื้อเรื่องของพระนางทั้งสองคู่ก็มีปริมาณพอสมควร หลายเหตุการณ์เป็นเรื่องราวธรรมดาแต่อ่านแล้วฟินสุดๆ สรุป เรื่องนี้อ่านแล้ววางไม่ลง คุ้มค่า คุ้มราคาจริงๆ บอกเลยยยย

เรื่องราวสุดชุลมุนวุ่น(วาย)รัก ของสองคู่ฝาแฝดที่ต่างกันสุดขั้ว “สุทธนุช” แฝดน้องที่แสนเปรี้ยว ก๋ากั๋น สุดแสบ ส่วน “สุทธดา” แฝดพี่แสนขี้อาย ไร้ความมั่นใจ กับสองอาหลานสุดหล่อ แสนเท่ห์ “ดร.ธันว์เทพ” อาหนุ่มสุดเพอร์เฟ็ค เพียบพร้อมทั้งหน้าตา ความรู้ หน้าที่การงาน กับหลานชาย “พีรวัส” หลานชายผู้เพียบพร้อมแต่ลอยชาย ไร้แก่นสาร เรื่องราวเกิดขึ้นแบบผิดฝาผิดตัวในตอนแรก ความแตกต่างกันของคนเราที่ดึงดูดหากันเหมือนแม่เหล็กต่างขั้ว ความสัมพันธ์ที่คุ้มดีคุ้มร้ายของพระนางที่ต้องช่วยลุ้นกันในหลายๆเหตุการณ์ รวมถึงความลับสุดแสนสำคัญของอาหนุ่มสุดหล่อที่ไม่มีใครรู้ จุดเด่นของเรื่องนี้คือ พล็อตเรื่องแบบฝาแฝด พระนางสองคู่ ยอดนิยมสุดๆ เนื้อเรื่องแม้จะค่อนข้างเดาได้ไม่ยาก แต่เมื่อถูกถ่ายทอดผ่านบทสนทนาที่สนุก ชวนติดตาม ไม่เยิ่นเย้อ และมีเสน่ห์ ทำให้การอ่านมีความสนุกมาก และฟินสุดๆกับหลายเรื่องราวของพระนางทั้งสองคู่ อีกทั้งตัวละครในเรื่องมีการบอกที่มาที่ไป เรื่องราวและเหตุผลของการกระทำของตัวละครรวมถึงสิ่งที่ตัวละครแต่ละตัวได้รับผลในบทสรุปสุดท้าย ทำให้เนื้อเรื่องมีความสมจริง น่าเชื่อถือ จุดเด่นอีกข้อคือ การผูกเนื้อเรื่องและลำดับความสำคัญของเหตุการณ์ต่างๆ ในเรื่อง ทำได้ค่อนข้างดี ลื่นไหล อ่านแล้วชวนติดตามให้ลุ้นว่าในหน้าถัดๆไป จะพบกับเหตุการณ์หรือบทสนทนาแบบใด เหตุการณ์จิ้นๆในเนื้อเรื่องของพระนางทั้งสองคู่ก็มีปริมาณพอสมควร หลายเหตุการณ์เป็นเรื่องราวธรรมดาแต่อ่านแล้วฟินสุดๆ สรุป เรื่องนี้อ่านแล้ววางไม่ลง คุ้มค่า คุ้มราคาจริงๆ บอกเลยยยย

เรื่องราวความรักของสาวไทยที่เกิดขึ้นในบรรยากาศสุดแสนโรแมนติคของรัชบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา แกนหลักของเรื่องจะบอกเล่าเรื่องราวของการผลิตไวน์ บรรยากาศไร่องุ่น ผูกโยงกับเรื่องราวของความเป็นมาของชนเผ่าอินเดียนแดง ด้วยพล็อตเรื่องแบบนี้สามารถเดาตอนจบของเรื่องได้ไม่ยากนัก แต่ก็สามารถสร้างความเพลิดเพลินในการอ่านได้พอสมควร การเดินเรื่องโดยรวมค่อนข้างเรื่อยๆ ไม่มีความหวือหวาให้ลุ้นหรือติดตามมากนัก ไม่ว่าจะเป็นการเจอกันโดยบังเอิญของนางเอกและพระเอกของเรื่องที่สร้างความเข้าใจคลาดเคลื่อนให้เกิดขึ้นกับนางเอก หรือจะเป็นนางเอกของเรื่องต้องเจอเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตจากชายคนรัก ส่งผลให้นางเอกต้องปรับเปลี่ยนแผนชีวิตและเป็นที่มาของการเกิดความรักกับพระเอกของเรื่อง จุดดีของหนังสือเล่มนี้สามารถสร้างความเพลิดเพลินและสมจริงสมจังจากข้อมูลที่ผู้เขียนได้ค้นคว้าและนำมาประกอบในเนื้อเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศความสวยงามของเมืองที่ใช้บรรยายในเรื่อง ไร่องุ่นที่สวยงาม หรือขั้นตอนต่างๆ ของบริษัทไวน์ หลายคนที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว อาจจะเกิดความใฝ่ฝันว่าจะต้องเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศแคนาดาก็เป็นได้ จุดดีอีกประการคือ การผูกเรื่องที่ค่อนข้างสมเหตุสมผล หลายเหตุการณ์ในเรื่องเล่าเรื่องราวผ่านการทำงานของพระเอกนางเอก ทำให้เกิดความรู้ตามไปด้วย ส่วนจุดด้อยของหนังสือเล่มนี้ หากใครเป็นแฟนคลับความโรมานซ์ อาจจะมีให้ลุ้นแบบน้อยไปสักนิดแต่ก็พอหอมปากหอมคอเหมือนกัน สรุป เรื่องนี้อ่านได้แบบเพลินๆ อาจจะไม่ประทับใจสุดขีดแต่ก็น่ารักน่าลุ้นไปอีกแบบนึง

เรื่องราวความรักของสาวไทยที่เกิดขึ้นในบรรยากาศสุดแสนโรแมนติคของรัชบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา แกนหลักของเรื่องจะบอกเล่าเรื่องราวของการผลิตไวน์ บรรยากาศไร่องุ่น ผูกโยงกับเรื่องราวของความเป็นมาของชนเผ่าอินเดียนแดง ด้วยพล็อตเรื่องแบบนี้สามารถเดาตอนจบของเรื่องได้ไม่ยากนัก แต่ก็สามารถสร้างความเพลิดเพลินในการอ่านได้พอสมควร การเดินเรื่องโดยรวมค่อนข้างเรื่อยๆ ไม่มีความหวือหวาให้ลุ้นหรือติดตามมากนัก ไม่ว่าจะเป็นการเจอกันโดยบังเอิญของนางเอกและพระเอกของเรื่องที่สร้างความเข้าใจคลาดเคลื่อนให้เกิดขึ้นกับนางเอก หรือจะเป็นนางเอกของเรื่องต้องเจอเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตจากชายคนรัก ส่งผลให้นางเอกต้องปรับเปลี่ยนแผนชีวิตและเป็นที่มาของการเกิดความรักกับพระเอกของเรื่อง จุดดีของหนังสือเล่มนี้สามารถสร้างความเพลิดเพลินและสมจริงสมจังจากข้อมูลที่ผู้เขียนได้ค้นคว้าและนำมาประกอบในเนื้อเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศความสวยงามของเมืองที่ใช้บรรยายในเรื่อง ไร่องุ่นที่สวยงาม หรือขั้นตอนต่างๆ ของบริษัทไวน์ หลายคนที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว อาจจะเกิดความใฝ่ฝันว่าจะต้องเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศแคนาดาก็เป็นได้ จุดดีอีกประการคือ การผูกเรื่องที่ค่อนข้างสมเหตุสมผล หลายเหตุการณ์ในเรื่องเล่าเรื่องราวผ่านการทำงานของพระเอกนางเอก ทำให้เกิดความรู้ตามไปด้วย ส่วนจุดด้อยของหนังสือเล่มนี้ หากใครเป็นแฟนคลับความโรมานซ์ อาจจะมีให้ลุ้นแบบน้อยไปสักนิดแต่ก็พอหอมปากหอมคอเหมือนกัน สรุป เรื่องนี้อ่านได้แบบเพลินๆ อาจจะไม่ประทับใจสุดขีดแต่ก็น่ารักน่าลุ้นไปอีกแบบนึง

เรื่องราวครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบ แสนแปลก เพราะเป็นครอบครัวที่ไม่ได้ประกอบไปด้วย พ่อ แม่ ลูก อย่างครอบครัวทั่วไป แต่ครอบครัวนี้มีเพียงลุงช้างและมดตะนอยหลานสาวตัวน้อยเท่านั้น ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเมื่อสาวสวยแสนเก๋ สุดมั่น ทันสมัย แต่หัวใจเป็นไทยอีสานล้านเปอร์เซ็นต์อย่างนางสาวไข่หวาน ต้องเข้ามาทำภารกิจและใช้ชีวิตอยู่กับสองลุงหลาน ความแตกต่างของชีวิต ความคิด สิ่งแวดล้อม และการเลี้ยงดู ทำให้สิ่งแตกต่างของลุงช้างและไข่หวาน ต่างเติมเต็มซึ่งกันและกันโดยมีมดตะนอยเป็นสายใยที่แสนแน่นเหนียว และความลับสุดสำคัญที่กำลังจะเปิดเผย ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของทุกคนในครอบครัว จุดเด่นของนิยายเล่มนี้คือการบอกเล่าถึงปัญหาแห่งยุคสมัย ความรักและความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในเวลาที่ขาดความพร้อม ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการที่ครอบครัวเลิกรา หย่าร้าง ความรักและความผูกพันทางสายเลือดที่เข้มข้นและเหนียวแน่นไม่มีวันตัดขาด ทุกเหตุการณ์เล่าอย่างผสมผสาน กลมกล่อมอย่างลงตัว ไม่ชี้นำว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่ถูกหรือผิดอย่างไร แต่ผู้อ่านจะรู้สึกคล้ายกับว่าหลายสิ่งหลายอย่าง หลายเหตุการณ์ หลายตัวละครในเรื่องนี้ ช่างคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่เราเองสามารถพบได้ในชีวิตของคนในยุคปัจจุบันนี้ แต่อาจจะมีการแก้ปัญหาที่แตกต่างกันออกไป ความประทับใจอีกข้อนึงสำหรับการอ่านหนังสือเล่มนี้คือ เป็นนิยายFeel Good แม้จะแอบแซมตัวอิจฉาไว้ แต่ก็เป็นคนที่ไม่ได้เลวร้ายแบบนิยายทั่วไป ดูเหมือนเป็นคนที่เราสามารถเจอได้ในชีวิตจริงอยู่ทุกวัน และเมื่อเราอ่านหนังสือเล่มนี้จบ เราอาจจะหันกลับมาดูและครอบครัวของเรามากขึ้น ไม่ว่าเราจะอยู่ในฐานะไหนในครอบครัวของเราก็ตาม

เรื่องราวครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบ แสนแปลก เพราะเป็นครอบครัวที่ไม่ได้ประกอบไปด้วย พ่อ แม่ ลูก อย่างครอบครัวทั่วไป แต่ครอบครัวนี้มีเพียงลุงช้างและมดตะนอยหลานสาวตัวน้อยเท่านั้น ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเมื่อสาวสวยแสนเก๋ สุดมั่น ทันสมัย แต่หัวใจเป็นไทยอีสานล้านเปอร์เซ็นต์อย่างนางสาวไข่หวาน ต้องเข้ามาทำภารกิจและใช้ชีวิตอยู่กับสองลุงหลาน ความแตกต่างของชีวิต ความคิด สิ่งแวดล้อม และการเลี้ยงดู ทำให้สิ่งแตกต่างของลุงช้างและไข่หวาน ต่างเติมเต็มซึ่งกันและกันโดยมีมดตะนอยเป็นสายใยที่แสนแน่นเหนียว และความลับสุดสำคัญที่กำลังจะเปิดเผย ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของทุกคนในครอบครัว จุดเด่นของนิยายเล่มนี้คือการบอกเล่าถึงปัญหาแห่งยุคสมัย ความรักและความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในเวลาที่ขาดความพร้อม ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการที่ครอบครัวเลิกรา หย่าร้าง ความรักและความผูกพันทางสายเลือดที่เข้มข้นและเหนียวแน่นไม่มีวันตัดขาด ทุกเหตุการณ์เล่าอย่างผสมผสาน กลมกล่อมอย่างลงตัว ไม่ชี้นำว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่ถูกหรือผิดอย่างไร แต่ผู้อ่านจะรู้สึกคล้ายกับว่าหลายสิ่งหลายอย่าง หลายเหตุการณ์ หลายตัวละครในเรื่องนี้ ช่างคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่เราเองสามารถพบได้ในชีวิตของคนในยุคปัจจุบันนี้ แต่อาจจะมีการแก้ปัญหาที่แตกต่างกันออกไป ความประทับใจอีกข้อนึงสำหรับการอ่านหนังสือเล่มนี้คือ เป็นนิยายFeel Good แม้จะแอบแซมตัวอิจฉาไว้ แต่ก็เป็นคนที่ไม่ได้เลวร้ายแบบนิยายทั่วไป ดูเหมือนเป็นคนที่เราสามารถเจอได้ในชีวิตจริงอยู่ทุกวัน และเมื่อเราอ่านหนังสือเล่มนี้จบ เราอาจจะหันกลับมาดูและครอบครัวของเรามากขึ้น ไม่ว่าเราจะอยู่ในฐานะไหนในครอบครัวของเราก็ตาม